วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสาน (Eclecticism)


2.4 ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสาน (Eclecticism)

   ทิศนา แขมณี.(2555:72) กานเย (Gagne’) เป็นนักจิตวิทยาและนักศึกษาในกลุ่มผสมผสานระหว่างพฤติกรรมนิยมกับพุทธนิยม (Behaxvior Cognitivist) เขาอาศัยทฤษฎีและกลักการที่หลากหลาย เนื่องจากความรู้มีหลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง กานเย ได้จัดขั้นการเรียนรู้ซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายาก โดยผสมผสานทฤษฎีการเรียนรู้ของกลุ่มพฤติกรรมนิยม และพุทธินิยมเข้าด้วยกัน

2.4.1 ทฤษฎีการเรียนรู้ของ กานเย (Gagn)

หลักการที่สำคัญของกานเย สรุปได้ดังนี้ (Gagne and Briggs, 1974:121-136)

1)กานเย (Gagne) ได้จัดประเภทของการเรียนรู้ เป็นลำดับขั้นจากง่ายไปหายากไว 8 ประเภท ดังนี้

1.1)การเรียนรู้สัญญาณ (signal-learning) เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจ ผู้เรียนไม่สามารถบังคับพฤติกรรมไม่ให้เกิดขึ้นได้

1.2)การเรียนรู้สิ่งเร้า- การตองสนอง ( stimulus- response learning) เป็นการเรียนรู้ต่อเนื่องจากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง แตกต่างจากการเรียนรู้สัญญาณ เพราะผู้เรียนสามารถควบคุมพฤติกรรมตนเองได้

1.3)การเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง (chaining) เป็นการเรียนรู้ที่เชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนองที่ต่อเนื่องกันตามลำดับ เป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการกระทำ การเคลื่อนไหว

1.4)การเชื่อมโยงทางภาษา (verbal association) เป็นการเรียนรู้ในลักษณะคล้ายกับการเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง แต่เป็นการเรียนรู้แบบการใช้ภาษา การเรียนรู้แบบการรับสิ่งเร้า- การตอบสนอง เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้แบบต่อเนื่องและการเชื่อมโยงทางภาษา

1.5)การเรียนรู้ความแตกต่าง (discrimination learning) เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถมองเห็นความแตกต่างของสิ่งต่างๆโดยเฉพาะความแตกต่างตามลักษณะของวัตถุ

1.6)การเรียนรู้ความคิดรวบยอด (concept learning) เป็นการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถจัดกลุ่มสิ่งเร้าที่มีความเหมือนกันหรือแตกต่างกัน โดยสามารถระบุลักษณะที่เหมือนหรือแตกต่างกันได้ พร้อมทั้งสามารถขยายความรู้ไปยังสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากที่เคยเห็นมาก่อนได้

1.7)การเรียนรู้กฎ (rule learning) เป็นการเรียนรู้ที่เกิดจากการรวมหรือเชื่อมโยงความคิดรวบยอดตั้งแต่สองอย่างขึ้นไป และตั้งเป็นกฎเกณฑ์ขึ้น การที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้กฎเกณฑ์จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำการเรียนรู้นั้นไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆกันได้

1.8)การเรียนรู้การแก้ปัญหา (problem solving)

2)กานเยได้แบ่งสมรรถภาพการเรียนรู้ของมนุษย์ไว้ 5 ประเภทดังนี้

2.1) สมรรถภาพในการเรียนรู้ข้อเท็จจริง (verbal information) เป็นความสามารถในการเรียนรู้ข้อเท็จจริงต่างๆโดยอาศัยความจำและความสามารถระลึกได้

2.2) ทักษะเชาว์ปัญญา (intellectual skills) หรือทักษะทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการใช้สมองคิดหาเหตุผล โดยใช้ข้อมูล ประสบการณ์ความเร็ว ความคิดในด้านต่างๆ นับตั้งแต่การเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นทักษะง่ายๆไปสู่ทักษะที่ยากสลับกับซับซ้อนมากขึ้น ทักษะเชาว์ปัญญาที่สำคัญที่ควรได้รับการฝึกคือ ความสามารถในการจำแนก (discrimination)  ความสามารถในการคิดรวบยอดเป็นรูปธรรม (concrete concept) ความสามารถในการให้คำจำกัดความของความคิดรวบยอด (defined concept) ความสามารถในการเข้าใจกฎและใช้กฎ (rules) และความสามารถในการแก้ปัญหา (problem solving)

2.3) ยุทธศาสตร์ในการคิด (cognitive strategies) เป็นความสามารถของกระบวนการทำงานภายในสมองของมนุษย์ ซึ่งควบคุมการเรียนรู้ การเลือกรับรู้ การแปลความ และการดึงความรู้ ความจำ ความเข้าใจ และประสบการณ์เดิมออกมาใช้ ผู้มียุทธศาสตร์ในการคิดสูง จะมีเทคนิค มีเคล็ดลับในการดึงความรู้ ความจำ ความเข้าใจและประสบการณ์เดิมที่ออกมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ปัญหาที่มีสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างดี รวมทั้งสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างสร้างสรรค์

2.4) ทักษะการเคลื่อนไหว (motor skills) เป็นความสามารถ ความชำนาญในการปฏิบัติ หรือการใช้อวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายในการทำกิจกรรมต่างๆ ผู้ที่มีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีนั้น พฤติกรรมที่แสดงออกมาจะมีลักษณะรวดเร็วคล่องแคล่ว และถูกต้องเหมาะสม

2.5) เจตคติ (attitudes) เป็นความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่มีต่อสิ่งต่างๆซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจของบุคคลนั้นในการที่จะเลือกกระทำหรือไม่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

http://www.neric-club.com/data.php?page=5&menu_id=97 กล่าวว่า ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกานเย (Gagne’s eclecticism) แนว คิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฏีนี้ คือ ความรู้มีหลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 9 ขั้น ดังนี้
                ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ(Gaining attention)                                                                               
ขั้นที่ 2 แจ้งจุดประสงค์(Informing the learning)                                                                                           
 ขั้นที่ 3 กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น(Stimulating recall of prerequisite learned capabilities)                                                                                                                     
  ขั้นที่ 4 เสนอบทเรียนใหม่(Presenting the stimulus)                                                                                   
 ขั้นที่ 5 ให้แนวทางการเรียนรู้(Providing learning guidance)

 ขั้นที่ 6 ให้ลงมือปฏิบัติ(Eliciting the performance)                                                                                      
 ขั้นที่ 7 ให้ข้อมูลป้อนกลับ(Feedback)                                                                                                       
  ขั้นที่ 8 ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์(Assessing the performance)                                     
  ขั้นที่ 9 ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้(Enhancing retention and transfer)

http://www.learners.in.th/blogs/posts/386486,http://surinx.blogspot.com/ กล่าวว่า ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกานเย (Gagne’s eclecticism)    แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฏีนี้ คือ  ความรู้มีหลายประเภท  บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง  บางประเภทมีความซับซ้อนมาก  จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง  หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้  คือ  การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด ขั้น  ดังนี้ 

ขั้นที่  สร้างความสนใจ(Gaining attention) 

ขั้นที่  แจ้งจุดประสงค์(Informing the learning) 

ขั้นที่  3  กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น(Stimulating recall of prerequisite learned capabilities) 

ขั้นที่  เสนอบทเรียนใหม่(Presenting the stimulus) 

ขั้นที่  ให้แนวทางการเรียนรู้(Providing learning guidance) 

ขั้นที่  ให้ลงมือปฏิบัติ(Eliciting the performance) 

ขั้นที่  ให้ข้อมูลป้อนกลับ(Feedback) 

ขั้นที่  ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์(Assessing the performance) 

ขั้นที่  9  ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้(Enhancing retention and transfer)

สรุป                                                                                                                                                                  
                     ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกานเย (Gagne’s eclecticism)   เชื่อว่าความรู้มีหลายประเภท  บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง  บางประเภทมีความซับซ้อนมาก  จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง                                                                                                           
ทฤษฎีการเรียนรู้ของ กานเย (Gagn)                  
 1.1)การเรียนรู้สัญญาณ (signal-learning)    
1.2)การเรียนรู้สิ่งเร้า- การตองสนอง ( stimulus- response learning                                                                             
1.3)การเรียนรู้การเชื่อมโยงแบบต่อเนื่อง (chaining) 
1.4)การเชื่อมโยงทางภาษา (verbal association)          
1.5)การเรียนรู้ความแตกต่าง (discrimination learning)          
1.6)การเรียนรู้ความคิดรวบยอด (concept learning)
1.7)การเรียนรู้กฎ (rule learning)                 
1.8)การเรียนรู้การแก้ปัญหา (problem solving)

กานเยได้แบ่งสมรรถภาพการเรียนรู้ของมนุษย์ไว้ 5 ประเภท

2.1) สมรรถภาพในการเรียนรู้ข้อเท็จจริง (verbal information)        
 2.2) ทักษะเชาว์ปัญญา (intellectual skills)                      
 2.3) ยุทธศาสตร์ในการคิด (cognitive strategies)     
 2.4) ทักษะการเคลื่อนไหว (motor skills              
 2.5) เจตคติ (attitudes)

เอกสารอ้างอิง

รศ.ดร.ทิศนา  แขมมณี.(2555).ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกรบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ.สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ 10330.

http://www.learners.in.th/blogs/posts/386486. เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

http://surinx.blogspot.com//. เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

http://www.neric-club.com/data.php?page=5&menu_id=97. เข้าถึงเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม

พ.ศ. 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น