สมมติฐานการวิจัย (Hypothasis)
http://in.kkh.go.th/department/research/index.php?option=com_content&view=article&id=52&Itemid=62 กล่าวไว้ว่า
สมมติฐานการวิจัย : ส่วนใหญ่ใช้กรณีที่เป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์หรือเชิงทดลองเพื่อพิสูจน์สมมติฐาน
ซึ่งเป็นคำตอบที่คาดคะเนล่วงหน้า โดยอาศัยเหตุผลที่ได้จากความรู้
จินตนาการและประสบการณ์เดิมของผู้วิจัย
โดยจะทดสอบสมมติฐานได้ต้องมีการวัดตัวแปรทั้ง 2
เป็นตัวเลขและสามารถทดสอบได้มี 2 อย่าง 1)
สมมติฐานทางการวิจัย
เขียนเป็นข้อความถึงความคาดคะเนความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
จะมีทิศทางหรือไม่มีทิศทางก็ได้ เช่นคำว่า “แตกต่างกัน”
หรือ “ไม่แตกต่างกัน” หรือ
“สูงกว่า” หรือ “ต่ำกว่า”
เป็นต้น 2) สมมติฐานทางสถิติ
เขียนในรูปประโยคสัญลักษณ์เชิงสถิติ
http://blog.eduzones.com/jipatar/85921 กล่าวไว้ว่า การตั้งสมมติฐาน เป็นการคาดคะเนหรือการทายคำตอบอย่างมีเหตุผล มักเขียนในลักษณะ การแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น(independent variables) และตัวแปรตาม (dependent variable) เช่น การติดเฮโรอีนชนิดฉีด เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคเอดส์ สมมติฐานทำหน้าที่เสมือนเป็นทิศทาง และแนวทาง ในการวิจัย จะช่วยเสนอแนะ แนวทางในการ เก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป สมมติฐานต้องตอบวัตถูประสงค์ของการวิจัยได้ครบถ้วนและทดสอบและวัดได้
http://itcstatistic.blogspot.com/2009/05/1.html กล่าวไว้ว่า สมมติฐานเป็นความคาดหวังในผลที่จะเกิดขึ้นจากการวิจัย เป็นการนำคำอธิบายของทฤษฎีมาทำนาย การเขียนเป็นการนำปัญหาการวิจัยมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของคำตอบที่คาดเดาไว้อย่างมีเหตุผล สมมติฐานเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของกระบวนการค้นหาความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์ การตั้งสมมติฐานใช้วิธีการของการอุปมานซึ่งเน้นการสังเกต และการอนุมานซึ่งเน้นการใช้เหตุผลในการวิเคราะห์สิ่งที่สังเกตได้ การทำวิจัยเรื่องหนึ่ง ๆ จะมีสมมติฐานหรือไม่ขึ้นกับระเบียบวิธีวิจัย ถ้ามีสามารถตั้งได้อย่างน้อยหนึ่ง สมมติฐานหรืออาจมากกว่าหนึ่งได้
สรุป
การตั้งสมมติฐาน (Hypothasis) เป็นการคาดคะเนหรือการทายคำตอบอย่างมีเหตุผล มักเขียนในลักษณะ การแสดงความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรอิสระหรือตัวแปรต้น(independent variables) และตัวแปรตาม (dependent variable) จะเขียนระบุอย่างชัดเจนถึงทิศทางของความแตกต่างถึงทิศทางของความแตกต่างระหว่างกลุ่ม โดยมีคำว่า “ ดีกว่า ” หรือ “ สูงกว่า ” หรือ “ ต่ำกว่า ” หรือ “ น้อยกว่า” ในสมมติฐานนั้นๆ และเขียนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การวิจัยซึ่งเป็นตัวแปรที่ต้องการศึกษาอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง
http://in.kkh.go.th/department/research/index.php?option=com_content&view=article&id=52&Itemid=62 เข้าถึงเมื่อ 21/12/2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น